มนุษย์เงินเดือน จัดการเงินเดือนยังไง เงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะพอ ?
จุดเริ่มต้นของการใช้เงินที่พอดี คือวินัยในการทำบัญชีรายรับรายจ่าย
เราเพิ่งเริ่มมาทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างละเอียดได้เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ทำให้ได้รู้ว่าในแต่ละเดือน สัดส่วนของการใช้เงินของเราเป็นดังนี้
เราเพิ่งเริ่มมาทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างละเอียดได้เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ทำให้ได้รู้ว่าในแต่ละเดือน สัดส่วนของการใช้เงินของเราเป็นดังนี้
เราได้เรียนรู้วิธีคิดเรื่องเงิน ชื่อ เงินหรือชีวิต หรือภาษาอังกฤษคือ
Your Money / Your Life หนังสือเล่มนี้สอนวิธีคิดเรื่องเงินที่ใช้ได้ตลอดชีวิต
ผ่านการทำแบบฝึกหัดซึ่งแบ่งเป็น 9 ขั้นตอนที่ค่อนข้างละเอียด
เราจะขอเอามาเล่าย่อๆผ่านประสบการณ์และคำตอบของเรา 4 ข้อ
ส่วนใครที่อยากอ่านเต็มๆ ซื้อหนังสือได้ที่เว็บของสำนักพิมพ์นะคะ Openbooks
1. ยอมรับอดีต
แบบฝึกหัดให้เราคำนวนดูว่าชีวิตนี้หาเงินได้เท่าไหร่ ขั้นตอนนี้กินเวลานานพอสมควรสำหรับเรา
เพราะต้องย้อนกลับไปไกลทำงานพิเศษ รับจ้างเต้นเปิดงานตามห้างครั้งละ 300 บาท
ไล่มาถึงสมัยมหาวิทยาลัยที่ทำงานพิเศษ จนทำงานประจำ
ตามเก็บรายละเอียดทรัพย์สินและหนี้สิน
แบบฝึกหัดนี้จะช่วยให้เราได้เห็นภาพชัด ทบทวนว่าทั้งชีวิตเราสามารถหาเงินได้มากขนาดไหน
เรามาไกลเท่าไหร่ เราควรภูมิใจกับตัวเองและเริ่มสร้างพื้นฐานความคิดว่า
จุดที่พอดีคือต้องหาได้เท่าไหร่ โดยเริ่มจาก รู้ก่อนเรามีเท่าไหร่นั้นเอง
2. ติดตามพลังชีวิต
คำนวนทุกอย่างเป็นต้นทุนทางเวลา เพราะในชีวิตนี้เวลาคือสิ่งที่เรามีจำกัด
และมีต้นทุนมาเท่ากันทุกคน
คิดตั้งแต่การเดินทางไปทำงาน ค่าชุด ค่าเครื่องสำอาง
ค่าครีมเพราะทำงานดึก ค่านวดเพราะเครียดปิดยอดไม่ได้
ค่าอาหารแพงๆที่ต้องไปกินเข้าสังคม
... และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งวิธีการก็คือทำบัญชีรายรับรายจ่ายแบบละเอียดมากๆ
แบบเก็บทุกเม็ด 3 บาท 5 บาท ก็ข้ามไม่ได้เด็ดขาด
ขันตอนนี้จะทำให้รู้ค่าพลังชีวิตของเรา ให้เราเห็นคุณค่าว่างานที่เครียดๆนั้น
มันมีผลต่อการใช้เงินทั้งโดยตรงและโดยอ้อม มันคุ้มหรือไม่ เหนื่อยไหมสิ่งที่เธอทำอยู่
และสำหรับเรา เมื่อเริ่มทำสิ่งนี้ เราจะมีสติเวลาใช้เงินมากขึ้น
ไมโลแท่ง 10 บาทจากที่เคยซื้อไม่คิด ก็ต้องคิดมากขึ้น
เพราะนี่อาจจะหมายถึงพลังชีวิตของเราตั้ง 10 นาทีแน่ะ!
3. สรุปว่าเงินหายไปไหน
ด้วยการทำตารางรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด ความยากคือการแบ่งหมวดหมู่ยิบย่อยเพื่อกรอก
และจัดกลุ่มมันเข้าด้วยกันอีกทีเพื่อดูภาพรวม ขั้นตอนนี้แต่ละคนคงจะมีตารางเป็นของตัวเอง
ด้านล่างนี้คือของเรา แชร์ให้ดูเผื่อเป็นไอเดียนะคะ
หลักจากทำรายรับรายจ่ายแล้วก็กลับไปดูข้อ 2 เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลจากหน่วยของเงินเป็นข้อมูลพลังชีวิตโดยใช้เลขจากขั้นตอนที่ื 2 เป็นตัวหาร ขั้นตอนนี้ต้องทำต่อเนื่องและยาวนาน
สัก 4 ถึง 5 เดือนอย่างน้อย เพราะมันเปรียบเสมือนการลงสนามเก็บข้อมูลทำรีเสิจ
เพื่อเอาข้อมูลตรงนี้ไปวิเคราะห์ในลำดับถัดไป
4. ตอบคำถาม 3 ข้อ
- 1 -
ฉันได้รับความอิ่มเอมใจ ความพึงพอใจ
และคุณค่าที่สมน้ำสมเนื้อกับพลังชีวิตไหม
- 2 -
การใช้จ่ายแบบนี้สอดรับกับคุณค่า
และความมุ่งหมายในชีวิตของฉันหรือไม่
- 3 -
การใช้จ่ายนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
ถ้าฉันไม่ต้องทำงานแล้ว
สำหรับเรา เพราะว่าเราเป็นคนคิดเรื่องนี้มานานแล้ว และเราก็ได้ตั้งเป้ากำหนดทิศทางชีวิตมาตั้งแต่แรก
ถึงสิ่งที่เราอยากเป็น อยากทำ และชีวิตที่เราอยากใช้
เราอยากสวยสุขภาพดี ความสวยคือสินทรัพย์
และสุขภาพคือสิ่งที่ต้องทำเอง ดูแลอย่างต่อเนื่อง
เราลงทุนกับสกินแคร์ และวิตามิน เราไม่กินอาหารแพงๆ
เพราะมันอาจจะไม่ได้ดีต่อสุขภาพ เราจึงสามารถตัดรายได้
ในส่วนการเข้าร้านอาหารไปได้มาก เราอยากมีอิสระทางการเงิน
มีบ้าน ไม่มีหนี้ และดูแลพ่อแม่อย่างดีให้สุขสบาย
ถ้าเราได้คิดไตร่ตรองมากพอกับคำถาม 3 ข้อนี้ เราจะพอมีคำตอบให้กับตัวเองได้ว่า
อะไรคือความสุขที่เราแลกไปเพื่อเงิน ความพอดีระหว่างเงินและความสุขมันอยู่ตรงไหน
แต่ละเดือนเราควรใช้เงินกับอะไร และที่สำคัญ เราต้องตั้งเป้าเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเดือนเท่าไหร่ เพราะมันไม่ใช่ยิ่งเยอะยิ่งดีเสมอไป มันมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมา ตามที่เราคุยกันแล้วในข้อ 2 ไงล่ะ!

Comments
Post a Comment